หลับใน คืออะไร รู้ไหมว่าแค่วูบ
เดียวก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นสูญเสียชีวิตได้แล้ว แบบนี้ ต้องป้องกัน แก้ไขก่อนอาการหลับในถามหาหนึ่งในสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็คือ คนขับมีอาการหลับในนี่แหละค่ะ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่คนแห่แหนกันไปท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน คนขับที่เที่ยวจนพักผ่อนไม่เพียงพอ แถมยังมาเจอรถติด ๆ ในเส้นทางไกล ๆ อีก อาการเหนื่อยเพลียก็ทำมีอาการหลับในได้ง่าย ๆ
อาการหลับในนี่อันตรายมากเลยนะคะ เพราะนั่นหมายความว่าสมองภายในของคุณจะหลับไปแวบหนึ่ง โดยที่สังเกตจากภายนอกไม่ได้เลย คนที่หลับในจะเหมือนกับกลายเป็นคนหูหนวก ตาบอด หมาดสติไปชั่วครู่ แถมเรายังบังคับตัวเองไม่ให้หลับในไม่ได้เลยด้วย เพราะเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเองกับคนที่ง่วงนอนมาก ๆ ซึ่งถ้าเผลอหลับในเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุจนต้องสูญเสียชีวิตได้แล้ว
ฟังดูน่ากลัวแบบนี้แล้ว แต่ถ้าเราจับสังเกตอาการหลับในได้ และเตรียมตัวป้องกันให้พร้อม ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้นกับตัวเราได้ กระปุกดอทคอมเลยรวบรวมวิธีจับสัญญาณอาการหลับใน พร้อมทั้งวิธีแก้ง่วง และป้องกันอาการหลับใน เพิ่มความปลอดภัยให้ทริปการท่องเที่ยวของคุณ ดังนี้เลย
คนที่พักผ่อนไม่เพียงพออันจะทำให้สมองหลับในไปชั่วครู่นั้น ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะหลับในไปเลย แต่จะมีสัญญาณบางอย่างที่บอกให้รู้ เรื่องนี้ผู้ร่วมเดินทางก็ต้องรู้ไว้ เพื่อจับสังเกตสารถีของเรานะ โดยอาการจะมีทั้ง...
1. หาวบ่อย และต่อเนื่อง
2. ใจลอย ไม่มีสมาธิ
3. รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิด กระวนกระวาย
4. จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาในช่วง 2-3 กิโลเมตรที่ผ่านมา
5. รู้สึกหนักหนังตา ลืมตาไม่ขึ้น ตาปรือ มองเห็นภาพไม่ชัด
6. รู้สึกมึนหนักศีรษะ
7. ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง
8. มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร
หากคนขับรถเริ่มมีอาการข้อใดข้อหนึ่ง หรือมีอาการหลายข้อรวมกัน นั่นเป็นสัญญาณฉุกเฉิน !!! ให้เราต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุแล้ว
กินผลไม้รสเปรี้ยวแก้ง่วง เพราะผลไม้รสเปรี้ยวจะช่วยกระตุ้นประสาทให้สดชื่นขึ้น อมน้ำแข็งเย็น ๆ หรือใช้น้ำแข็งถูขมับ หรือดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ จะช่วยทำให้สดชื่นตื่นตัวขึ้น
ปิดแอร์ในรถ แล้วเปิดกระจกให้อากาศถ่ายเท ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถ และลมจากธรรมชาติจะช่วยให้คนขับรถรู้สึกสดชื่นขึ้น เปิดเพลงดัง ๆ จังหวะเร็ว ๆ แล้วร้องตามไปด้วย ช่วยแก้ง่วงนอนได้ (แต่อย่าเปิดเพลงช้าเชียว จะยิ่งทำให้ง่วงนอนมากขึ้นไปอีก)
หากไม่ไหวจริง ๆ ให้หาที่ปลอดภัยจอดรถนอนพักผ่อนสัก 10-15 นาที ก่อนเดินทางต่อ อย่าฝืนขับรถต่อไปเด็ดขาด อันตรายมาก หาคนช่วยขับรถแทนให้ สลับกันตลอดเส้นทาง เพื่อไม่ให้ร่างกายเมื่อยล้าจนเกินไป ให้จอดพักรถทุก ๆ 150 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง
ติดตามข่าวสารล่าสุดก่อนใคร ได้ที่ WeeklyNews
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น